วันพฤหัสบดีที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

หน้าชื่นปากหวาน..แต่น้ำตาท่วมอก..2

เมื่อหมอโกหกคนไข้..

เรื่องโกหกที่สอง..
วันนี้ลงเวร..ถูกเสี้ยนตำตั้งแต่เช้า..
ตอนเย็นมันบวม..
เลยเดินไปERจะบ่งออก..
(อยู่รพ.ทั้งวันแต่เพิ่งว่างตอนหกโมงครึ่ง..)

ไปถึง..
เจอกับหมอเวรอีกท่านนึง..มาดูคนไข้ฉุกเฉิน..
มีคนไข้..EMSไปรับ..
ฟังชื่อแล้วเอ๊ะ..พ่อตู้เดช.."ของฉัน"นี่นา..
(เดี๋ยวนี้นิสัยเสีย..เอะอะก็ของฉันไปหมด..)

จำได้..
คนไข้CA Colon ปฏิเสธรักษาต่อเนื่อง..
อยู่ในระยะEnd Of Life Careนี่นา..
ปกติอยากอยู่บ้านยังกับอะไร..
วันนี้เป็นอะไรนะ..ถึงมารพ.

วันนี้"ตู้เดชของหมอยุ่ง"มาด้วย อาเจียนเป็นเลือดดำ..
เดินผ่านไปเงียบๆ..
ไปบ่งเสี้ยนตำมือ...(ให้เกียรติแพทย์เจ้าของเวรหน่อย)
แต่แอบเมียงมองแบบ.."คนไข้ฉัน"อ่ะ..มีรัยมั้ย?

แพทย์เวร(ตัวจริง)ดูอาการ..พูดคุยกับญาติ..
โทรRefer..แล้วเดินออกไป..

"หมอไม่เวร"ที่แอบมาเอาเข็มบ่งเสี้ยน..
ไปทำบัตร..มาลงประวัติคืนเข็มให้ER
เดินเข้ามาพอดี..เห็นยังล้างท้องตู้เดชอยู่..
เลยเดินเข้าไปทัก..จับมือพ่อเดช..

ตู้เดชของหมอ..
จมูกมีสายล้างท้อง...พูดก็ไม่ถนัด..หายใจก็ไม่ถนัด..
ส่งเสียงแหบแห้งถามหมอว่า..

"หมอยุ่งอยู่เวรวันไหน.."

ฟังแล้วงง..

พ่อเดชเลือดออกในกระเพาะจนความดันวัดไม่ได้..
น้ำตาลต่ำจนเบลอ..
พอได้น้ำเกลือ..ไปขวดนึง..(แน่นอนว่าFREE FLOW)
แถมกำลังจะถูกส่งตัวไปโรงพยาบาลใหญ่..
ไปพบหมอใหญ่กว่า..เก่งกว่า..เฉพาะทางเชี่ยวชาญกว่า..


คิดว่าจะถามเรื่องโอกาสรอด..
คิดว่าจะบ่นกังวลอนาคตของตัว..

"ทำไมมาถามถึงเวรหมอ??"

ด้วยความที่โกหกปากหวาน(กับคนไข้)จนชิน

ตารางเวรแพทย์ยังไม่ออก..

หมอยุ่งตอบตาเดชว่า..
"ยังไม่รู้เลยว่าอยู่เวรวันไหน..
แต่ยังไงก็จะอยู่รอรับพ่ออยู่นี่ล่ะ..
รีบกลับมาเน้อ.."

แต่ในใจ..
(เที่ยวนี้ตาเดชจะรอดมั้ยเนี่ย..เลือดออกปานนี้..
เกล็ดเลือดก็น่าจะต่ำ..มะเร็งคงแพร่ไปทั่วแล้ว..)

เกิดภาวะ
"หน้าชื่นปากหวาน..แต่น้ำตาท่วมอก."
ขั้นแรก..

แล้วยืนส่งคนไข้จนขึ้นรถRefer
ร่ำลารับไหว้รับคำขอบคุณจากลูกๆของตู้เดช
(แทนแพทย์ตัวจริง)
เรียบร้อย..

หลังจบเรื่อง..
พยาบาลที่ล้างท้องให้ตู้เดชเล่าว่า..
ตอนแรกที่หมอเดินเข้ามา..

ตู้เดชที่เสียงแหบ..ตาโรย..
เพิ่งมีสติหลังได้น้ำตาลฉีดเข้าเส้น..
ได้ยินเสียงหมอ..
แกส่งเสียงเรียก.."หมอยุ่ง"..เป็นคำแรกหลังฟื้น..

พยาบาลที่กำลังใส่สายยางล้างท้องอยู่ในตอนนั้น..
จึงกระซิบบอกแกว่า...
ตา..วันนี้ไม่ใช่เวรหมอยุ่ง..เพิ่นแวะมาเฉยๆ..

เท่านั้นแหละ..
แพทย์ยุ่งตีหน้ายิ้มแย้มใส่พยาบาล..
ส่งเสียงได้แค่"เหรอ.."แล้วเดินออกมา..

แต่ในใจ..หลังฟังเรื่องที่พยาบาลเล่า...

ใจหายวาบ!
กลายเป็น"หน้าชื่นปากหวาน..แต่น้ำตาท่วมอก."ขั้นเทพ!!!

นี่เอง..คือเหตุผล..
ที่ประโยคแรกที่ตู้เดชถามหมอยุ่ง..
ขณะกำลังถูกส่งตัวไปรพ.อื่น
ถึงกลายเป็น..

"หมอยุ่งอยู่เวรวันไหน.."

ไม่รู้จะดีใจหรือเสียใจดี..
ไม่รู้ว่าควรเศร้า..หรือ..ภูมิใจในตัวเองดี..

แต่ยังไง..
ก็นับว่าเป็นความรู้สึกแสนดี..ที่ล้ำค่า..
สำหรับหมอคนหนึ่ง..

และทำให้รู้สึกว่า..

ถึงแม้จะต้องผิดศีลห้า..ข้อมุสาเรื่อยไปทุกๆวัน..
กลายเป็นคน"หน้าชื่นปากหวาน..แต่น้ำตาท่วมอก"

ถ้ายังมีคนไข้แบบ "ตู้เดช"..และ"หนูลำไย"อยู่
เราก็ยังยืนยันจะเป็นหมอ..
ที่โกหกคนไข้ไปเรื่อยๆแบบนี้ต่อไป..

ขอโทษนะคะ..
ศีลห้าของหนู..

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น